ปี 2566 นับเป็นปีที่โลกร้อนที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ โดยอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกอยู่ในระดับที่สูงกว่าช่วงก่อนยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมถึง 1.4 องศาเซสเซียส ใกล้ทะลุกรอบความตกลงปารีส (Paris Agreement) ว่าด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มีเป้าหมายควบคุมไม่ให้อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส สุ่มเสี่ยงที่จะสร้างผลกระทบตามมามากมาย
องค์กรที่ปรึกษาด้านการเงินและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงด้านอุณหภูมิชื่อดังของโลกอย่าง Climate Policy Initiative ประเมินว่า ในกรณีที่อุณหภูมิโลกสูงขึ้น 1.5 องศาเซลเซียส โลกจะได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ผลผลิตเกษตรและความหลากหลายทางชีวภาพที่ลดลง คิดเป็นมูลค่ารวมถึง 1,062 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใน 75 ปีข้างหน้า และมูลค่าความเสียหายอาจสูงถึง 2,328 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในกรณีที่อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นเกินกว่า 3.0 องศาเซลเซียส
ด้วยความตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหาที่เกิดขึ้น ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ในฐานะธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย ที่มีเป้าหมายจะเดินหน้าสู่การเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาโลกสีเขียว (Green Development Bank) จึงนำเอาแนวคิดการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน โดยไม่หวังผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่คำนึงถึง 3 ปัจจัยหลัก คือ ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environment, Social, and Governance: ESG) มาใช้ขับเคลื่อนองค์กร พร้อมกับได้จัดงาน “EXIM Green Wishes Market” พร้อมกับให้ลูกค้าธนาคาร โดยเฉพาะ SMEs และกลุ่มเปราะบางในชุมชน ผ่านการออกร้านจำหน่ายสินค้าและกิจกรรมประมูลของรักของหวงของผู้บริหาร EXIM BANK
ในวงเสวนาดังกล่าว ผศ.ดร.ประชา คุณธรรมดี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการนโยบายป่าไม้แห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นตัวการหลักในการสร้างก๊าซเรือนกระจกต้นเหตุของโลกร้อนผ่านการใช้พลังงานและการขนส่งที่ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ซึ่งทางแก้ไขคือการปลูกต้นไม้เพิ่มเพื่อดูดซับก๊าซเรือนกระจก พร้อมกับการบริหารจัดการป่าไม้ทั้งระบบให้มีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคยังสามารถช่วยลดโลกร้อนได้ง่าย ๆ ด้วยการสนับสนุนผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้ารักษ์โลกต่าง ๆคำพูดจาก ฟรี เกมสล็อตทดลองเล่น
“คนไทยทุกคนช่วยลดโลกร้อนได้ด้วยตัวเองผ่านการบริโภค การใช้ผลิตภัณฑ์รีไซเคิลและรับประทานสินค้าที่ช่วยสร้างตัวคูณทางเศรษฐกิจสีเขียว เช่น น้ำผึ้งที่มีคุณภาพสูง ถ้าไม่มีป่าก็ไม่มีน้ำผึ้ง การบริโภคน้ำผึ้งเท่ากับช่วยอนุรักษ์ป่า นอกจากนี้ ภาครัฐควรส่งเสริมให้คนปลูกต้นไม้มูลค่าสูงในที่ดินของตนเองมากขึ้น เพื่อลดการตัดไม้ในป่าสงวน การบริหารจัดการป่าไม้ที่ดีจะทำให้ประเทศมีป่าที่สมบูรณ์เพื่อดูดซับก๊าซเรือนกระจก” ผศ.ดร.ประชา กล่าว
นพ.วีรฉัตร กิตติรัตนไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมภายใต้ชื่อแบรนด์ ‘เกรซ’ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประชากรทั่วโลกกว่า 7,000 ล้านคน มีค่าเฉลี่ยในการก่อขยะพลาสติกและโฟมอยู่ที่ 1.8 ชิ้นต่อคนต่อวัน หรือคิดเป็นขยะมากกว่าวันละ 10,000 ล้านชิ้น สร้างมลภาวะและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาล การส่งเสริมให้ใช้พลาสติกรีไซเคิลจึงเป็นหนึ่งในทางออกสำคัญที่จะช่วยลดขยะให้โลกและลดค่ากำจัดขยะได้ปีละหลายหมื่นล้านบาท
“ธุรกิจของเกรซคือ การนำเอาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารโดยใช้เทคโนโลยีมาช่วย เราช่วยให้ผู้ที่ปลูกข้าวหลังจากเก็บเกี่ยวไม่ต้องเผาฟางข้าว แต่ส่งมาขายกับเราแทน ทำให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น นอกจากนี้ เรายังรับซื้อซังข้าวโพด ผักตบชวาและเยื่อปาล์มซึ่งล้วนเป็นการนำวัสดุเหลือใช้มาสร้างมูลค่าเพิ่มอีกด้วย” นพ.วีรฉัตร กล่าว
ด้านนายพงษ์ศักดิ์ จึงรุ่งเรืองวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยพลาสติก รีไซเคิล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ธุรกิจรับซื้อขวดพลาสติก PET ที่สามารถรีไซเคิลได้ 100% ของบริษัทมีการเติบโตสูงมากตามกระแสรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยปัจจุบันบริษัทมีกำลังรับซื้อขวด PET อยู่เดือนละ 2,000 ตัน จากฐานลูกค้า 1,050 ราย และในอนาคตมีแผนจะขยายการรับซื้อเพิ่มอีกหนึ่งเท่าเป็นเดือนละ 4,000 ตัน ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะในประเทศได้เพิ่มขึ้น
นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวว่า ในฐานะธนาคารที่มุ่งมั่นจะเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาโลกสีเขียว EXIM BANK วางเป้าหมายจะเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2573 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ในปี 2593 พร้อมเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนให้เป็น 50% ของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมดภายในปี 2571 เร็วกว่าเป้าหมายของประเทศไทยที่จะเข้าสู่ Carbon Neutrality ในปี 2593 และ Net Zero Emissions ภายในปี 2608 ตามสัตยาบันที่ให้ไว้ต่อที่ประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (COP 26)
“ตลอดปีที่ผ่านมา EXIM BANK พยายามที่จะใช้ Green Finance สร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยเร่งปรับตัวและปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน อาทิ การผลิต การตลาด ที่มุ่งสู่ความยั่งยืนมากขึ้น โดย EXIM BANK พร้อมสนับสนุนด้านความรู้ โอกาส และเงินทุน รวมทั้งผลักดันให้เกิดการซื้อขายคาร์บอนเครดิต เพื่อนำไปหักลบกับมลพิษที่ปล่อย ทำให้เกิดความเป็นกลางทางคาร์บอน ควบคู่กับการสานพลังกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรและประเทศไทยได้ตามเป้าหมาย” ดร.รักษ์ กล่าว
กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวอีกว่า ในปี 2567 ธนาคารยังมีเป้าหมายจะออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สนับสนุนการปรับตัว Go Green ของผู้ประกอบการเพิ่มอีก โดยอาจเปิดให้ผู้ประกอบการนำเอาคาร์บอนเครดิตมาแลกกับสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษ และผู้ประกอบการ SMEs จะได้รับดอกเบี้ยต่ำเทียบเท่าผู้ประกอบการรายใหญ่ในห่วงโซ่ผลิตเดียวกัน
นอกจากนี้ ธนาคารจะออกพันธบัตร Blue Bond เป็นครั้งแรกเพื่อขับเคลื่อน Blue Economy ดูแลรักษาทรัพยากรทางทะเลให้เป็นแหล่งการจ้างงานและแหล่งรายได้ที่ยั่งยืนของประชากรหลายล้านคนทั่วโลก โดยปัจจุบันการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลเป็นหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDG) ขององค์การสหประชาชาติ แต่การจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวต้องใช้เงินลงทุนสูงถึงราว 1.75 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ขณะที่ในช่วงปี 2558-2562 มีเงินลงทุนจริงไม่ถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี เท่ากับว่ายังมีช่องว่างของเงินลงทุนเหลืออยู่มากถึงเกือบ 1.65 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี หรือราว 1 ใน 3 ของ GDP ไทย
“นับจากเปิดดำเนินงานอย่างเป็นทางการในปี 2537 EXIM BANK ได้ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทั้งในและต่างประเทศรวมแล้วกว่า 400 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตกว่า 8,800 เมกะวัตต์ ลดการปล่อยคาร์บอนได้มากกว่า 100 ล้านตัน สร้างมูลค่าการลงทุนกว่า 578,300 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ธนาคารยังพัฒนาสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนรูปแบบใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น สินเชื่อ Solar Orchestra และ EXIM Solar D-Carbon Financing ที่ไม่เพียงให้เงินทุน แต่ยังช่วยสนับสนุนการขึ้นทะเบียนคาร์บอนเครดิตให้แก่ผู้ประกอบการ รวมถึงสินเชื่อ EXIM Green Start ดอกเบี้ยอัตราพิเศษสำหรับ SMEs หรือคนตัวเล็กที่ต้องการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจสีเขียว โดยคาดว่าพอร์ตสินเชื่อที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของ EXIM BANK ณ สิ้นปี 2566 จะอยู่ที่ราว 61,500 ล้านบาท หรือ 35% ของสินเชื่อคงค้างรวมของธนาคาร” คำพูดจาก ทดลองสล็อต pg